คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่คุณอาจมีเกี่ยวกับ
เครื่องมือโปรโมตสินค้าบน Lazada

คำถามที่คุณอาจมีเกี่ยวกับ
เครื่องมือโปรโมตสินค้าบน Lazada

เลือกเครื่องมือโปรโมต

การโปรโมตบนแพลตฟอร์ม

โปรโมตผ่านลาซาด้า

เครื่องมือเพิ่มยอดเข้าชมจากนอกแพลตฟอร์ม

CPAS Migration Webinar 2024

คำถามทั่วไป

ฉันควรเริ่มด้วยเครื่องมือโปรโมตสินค้าใดก่อน
  • ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ทางการตลาดของคุณเป็นหลัก:
  • หากคุณมีความสนใจในการทำการตลาดภายในแพลตฟอร์ม เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วย โปรโมตผ่านลาซาด้า (รูปแบบการคิดค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายต่อคลิก)
  • หากคุณมีความสนใจในการทำการตลาดนอกแพลตฟอร์ม เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วย โปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์ (รูปแบบการคิดค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายต่อคำสั่งซื้อ)
  • ตั้งค่าได้ง่ายๆ  เพียงแค่กำหนด commission rate สำหรับสินค้าทั้งร้าน ตามที่ระบบแนะนำ คุณจะถูกคิดค่าใช้จ่ายเมื่อมีการสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าเท่านั้น จากข้อมูลที่ผ่านมา เราพบว่าเครื่องมือโปรโมตนี้สามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROAS) สูงสุดถึง 25 เท่า
สินค้าใดบ้างที่ห้ามโปรโมต
  • ข้อกำหนดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ควรตรวจสอบกับข้อบังคับและนโยบายแต่ละพื้นที่ โดยทั่วไปจะมีห้าหมวดหมู่สินค้าที่อาจมีข้อจำกัดในระดับหนึ่งสำหรับการโปรโมต:
  • เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่: ไม่มีการเปลือยกายหรือการเปิดเผยอวัยวะเพศ บางประเทศอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน สินค้าดูแลสตรี และเซ็กซ์ทอย
  • แอลกอฮอล์: บางประเทศอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่คล้ายแอลกอฮอล์
  • อาหาร: บางประเทศอาจจำกัดอาหารหรือสูตรสำหรับทารกหรือเด็กวัยหัดเดิน ปกติต้องขึ้นทะเบียน FDA (องค์การอาหารและยา)
  • เครื่องสำอาง: โดยปกติแล้วไม่อนุญาตให้อ้างสรรพคุณเกินจริงของเครื่องสำอาง ปกติต้องขึ้นทะเบียน FDA (องค์การอาหารและยา)
    ยาและอุปกรณ์การแพทย์: ปกติต้องขึ้นทะเบียน FDA (องค์การอาหารและยา)
ฉันสามารถใช้เครื่องมือโปรโมตสินค้าใดได้บ้าง
Sponsored Solutionsใช้ได้กับทุกร้านค้าเฉพาะร้านค้าที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
โปรโมตผ่านลาซาด้า/ 
โปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์/ 
โปรโมตผ่านดิสเพลย์ LazMall เป็นหลัก
โปรโมตผ่านสื่อภายนอก /
UTM Tracker LazMall เป็นหลัก
ฉันจะเติมเงินที่ใช้กับโปรโมตผ่านลาซาด้าและแคมเปญโปรโมตสินค้าใหม่ได้อย่างไร
มีสองตัวเลือกในการเติมเงิน:
  • เติมเงินโดยอัตโนมัติ - ใช้ยอดรายได้ปัจจุบันจากร้านค้าของคุณเพื่อเติมเงินแบบอัตโนมัติ ตามที่กำหนด เช่น รายสัปดาห์ หรือเมื่อยอดเงินของคุณต่ำกว่าเกณฑ์ที่คุณตั้งไว้
  • เติมเงินแบบรายครั้ง - เติมเงินตามจำนวนที่คุณต้องการ โดยสามารถเติมได้สูงสุดถึง 80% จากยอดรายได้ปัจจุบัน หรือใช้บัตรเดบิต/เครดิต และวิธีการชำระเงินอื่นๆ เช่น e-wallet (ขึ้นอยู่กับการให้บริการในแต่ละประเทศ)
ฉันจะเติมเงินที่สามารถใช้กับการโปรโมตผ่านสื่อภายนอกได้อย่างไร
  • คุณสามารถเติมเงินโดยใช้ยอดรายได้ปัจจุบันของร้านค้า หรือวิธีอื่นๆ เช่น บัตรเดบิต/เครดิต ธนาคาร และอีกมากมาย ยอดเงินจากการโปรโมตผ่านลาซาด้าหรือแคมเปญโปรโมตสินค้าใหม่ ไม่สามารถใช้กับการโปรโมตผ่านสื่อภายนอกได้
ยอดเงินเติมจะหมดอายุหลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือไม่
  • ไม่ ยอดเงินเติมของคุณไม่มีวันหมดอายุ
ฉันสามารถขอคืนเงินสำหรับยอดเงินเติมได้หรือไม่
  • ไม่ได้ ไม่สามารถขอคืนยอดเงินเติมได้
มูลค่าที่เติมเงินรวมภาษีแล้วหรือไม่
  • มูลค่าการเติมเงินยังไม่รวมภาษี (ถ้ามี)
ฉันจะชำระวงเงินเครดิตที่ใช้ไป (Postpaid) ได้อย่างไร"
  • ใบแจ้งหนี้สำหรับค่าบริการโปรโมตผ่านดิสเพลย์ที่จะถูกส่งให้คุณทุกเดือน เราจะส่งใบแจ้งหนี้ไปยังอีเมลที่คุณระบุไว้ในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ขณะตั้งค่าแคมเปญ

โปรโมตผ่านลาซาด้า (SD) ทั่วไป

ใครสามารถใช้การโปรโมตผ่านลาซาด้าได้บ้าง
  • ร้านค้าทุกรายที่มีคะแนนพฤติกรรม (คะแนนนโยบาย - NCP) น้อยกว่า 12 คะแนน
  • NCP (คะแนนพฤติกรรมหรือคะแนนนโยบายของร้านค้า) คือ คะแนนที่ใช้วัดการปฏิบัติตามข้อกำหนดของลาซาด้า ซึ่งจะเพิ่มขึ้นหากร้านค้ามีการทำกิจกรรมที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายของแพลตฟอร์ม โดยคะแนนนี้จะสะท้อนถึงการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ลาซาด้ากำหนดไว้
ฉันจะถูกเรียกเก็บเงินอย่างไร?
  • รูปแบบการเก็บเงินเป็นแบบค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC)
สินค้าที่โปรโมตผ่านโปรโมตผ่านลาซาด้าจะแสดงผลที่ไหน?
  • โปรโมตผ่านคำค้นหา: แสดงบนหน้าผลลัพธ์การค้นหา
  • โปรโมตผ่านสินค้าที่แนะนำ: หน้าแรกบริเวณ 'สำหรับคุณ' , หน้ารายละเอียดสินค้า (PDP) บริเวณ 'คำแนะนำ' และแท็บ 'รีวิวของฉัน'
คำถาม: ตัวกำหนดอันดับสินค้าโปรโมตของฉันคืออะไร
  • ราคาประมูลที่สามารถแข่งขันกับร้านอื่นในหมวดหมู่เดียวกัน การเลือกคีย์เวิร์ด และคุณภาพของสินค้าที่โปรโมต (เช่น ประสิทธิภาพการขายที่ผ่านมา คะแนนสินค้า รีวิวเชิงบวก และภาพสินค้า) ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดอันดับของสินค้าที่คุณโปรโมต

การตั้งค่าแคมเปญ

ความแตกต่างระหว่างประเภทแคมเปญเลือกสินค้าอัตโนมัติและแคมเปญแบบตั้งค่าเองคืออะไร
อัติโนมัติ ตั้งค่าด้วยตนเอง
คำอธิบาย เริ่มต้นได้ง่ายๆ เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าที่โปรโมตผ่านลาซาด้า ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ตามงบประมาณรายวันและราคาประมูลที่คุณตั้งค่าไว้ คุณจะได้มีประสบการณ์ในการทำการตลาดด้วยตัวเอง เรียนรู้และปรับการตั้งค่าแคมเปญให้เหมาะสม รวมถึงโปรโมตสินค้าผ่านราคาประมูลที่สามารถกำหนดเองได้
ตั้งค่างบประมาณ
  • งบประมาณรายวันสูงสุด
  • งบประมาณรายวันสูงสุด
  • งบประมาณรายวันไม่จำกัด
ตั้งค่าราคาประมูล
  • ราคาประมูลที่คุ้มค่า
  • ราคาประมูลสูงสุด
  • ราคาประมูลที่แข่งขันในหมวดหมู่เดียวกันได้
  • ราคาประมูลรายสินค้า
  • ราคาประมูลระดับคีย์เวิร์ด
ปลดล็อคฟีเจอร์
  • การเลือกสินค้าอัตโนมัติ
/
  • โปรโมตบนตำแหน่งแรกของการค้นหา
/
  • กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
/
ฉันควรตั้งค่ากี่แคมเปญ?
  • ขั้นตอนแรกเริ่มต้นด้วยการใช้แคมเปญเลือกสินค้าอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย (ทำงานตลอดเวลา):
  • เราขอแนะนำให้เปิดใช้งานแคมเปญนี้เพื่อให้ระบบของเราเรียนรู้สินค้าของคุณ ปรับการตั้งค่าให้เหมาะสม และช่วยโปรโมตสินค้าที่มีศักยภาพในการดึงดูดคลิก การเข้าชม และนำไปสู่ยอดขายในที่สุด
  • หลังจากนั้นคุณสามารถเปิดใช้งานแคมเปญเลือกสินค้าด้วยตัวเองเพื่อโฟกัสไปที่แต่ละหมวดหมู่ เช่น สกินแคร์ เครื่องบำรุงผม เครื่องสำอาง และอื่นๆ สำหรับแคมเปญที่เน้นไปที่แต่ละหมวดหมู่ รวมถึงการโปรโมตสินค้าฮีโร่ (Hero Products) ด้วย (สินค้าขายดีที่มีรีวิวจากลูกค้าดี)
  • เลือกใช้แคมเปญแบบตั้งค่าเองหากคุณมีประสบการณ์ในการโปรโมตสินค้าผ่านลาซาด้า แคมเปญประเภทนี้ต้องอาศัยการเรียนรู้และปรับการตั้งค่าด้วยตัวเองมากกว่าเมื่อเทียบกับแคมเปญเลือกสินค้าอัตโนมัติ
ฉันควรจัดสรรงบประมาณเท่าไหร่สำหรับแต่ละแคมเปญ
  • โดยหลักการแล้ว ควรตั้งงบประมาณรายวันที่สามารถสร้างยอดคลิกได้อย่างน้อย 100 คลิก ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้ระหว่างการตั้งค่าแคมเปญ ระบบอัลกอริทึมของเราจะช่วยคาดการณ์จำนวนคลิกที่คุณอาจได้รับ โดยพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลัง การตลาดปัจจุบัน และการตั้งค่าแคมเปญของคุณ
  • เข้าสู่ระบบและตรวจสอบประสิทธิภาพแคมเปญของคุณบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีงบประมาณรายวันเพียงพอที่สามารถสร้างยอดคลิกได้อย่างน้อย 100 คลิก งบประมาณที่ต้องใช้อาจผันผวนในแต่ละวันเนื่องจากค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) เปลี่ยนแปลง
ฟีเจอร์ โปรโมตบนตำแหน่งแรกของการค้นหา และ กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ใช้งานอย่างไร ?
  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ราคาประมูลของคุณโดยเพิ่ม x% ให้สูงกว่าราคาประมูลฐานของคุณสำหรับตำแหน่งการแสดงผลโดยเฉพาะ (เช่น โปรโมตบนตำแหน่งแรกของการค้นหา) หรือกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ฉันจะปลดล็อกฟีเจอร์โปรโมตบนตำแหน่งแรกของการค้นหา (FSS) ได้อย่างไร
  • ประเภทแคมเปญ = แคมเปญแบบตั้งค่าเอง
  • ตำแหน่ง = โปรโมตผ่านคำค้นหา
ฉันจะตรวจสอบประสิทธิภาพของการโปรโมตบนตำแหน่งแรกของการค้นหา (FSS) ได้อย่างไร
  • คุณสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการโปรโมตบนตำแหน่งแรกของการค้นหาได้ในส่วนรายงานและข้อมูลเชิงลึก - ข้อมูลเชิงลึก - โปรโมตผ่านลาซาด้า - โปรโมตบนตำแหน่งแรกของการค้นหา
ฉันจะปลดล็อกฟีเจอร์กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร
  • ประเภทแคมเปญ = แคมเปญแบบตั้งค่าเอง
  • ตำแหน่ง = โปรโมตผ่านสินค้าที่แนะนำ
มีคำแนะนำ (%) ราคาประมูล สำหรับการกำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือไม่
  • ในการตั้งค่ากำหนดกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่มราคาประมูลขึ้นประมาณ +15% ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หลังจากนั้น คุณสามารถติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญและกลุ่มเป้าหมาย เพื่อพิจารณาว่าควรเพิ่ม % การประมูลให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มยอดเข้าชม หรือปรับลด % การประมูลลงเพื่อรักษา ROAS ให้อยู่ในระดับที่ต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและเป้าหมายของคุณเป็นหลัก
  • โปรดทราบว่าการเพิ่มราคาประมูลอาจส่งผลต่อ ROAS (ทั้งในทางเพิ่มขึ้นหรือลดลง) โดย ROAS ที่ลดลงไม่ได้หมายความว่า "แย่" เสมอไป หากยังสามารถบรรลุเป้าหมายที่คุณต้องการได้ เช่น การเพิ่มการแสดงผลและยอดเข้าชม ในขณะเดียวกันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของคุณ
ฉันจะตรวจสอบประสิทธิภาพของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร
  • คุณสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของกลุ่มเป้าหมายได้ในส่วนรายงานและข้อมูลเชิงลึก - ข้อมูลเชิงลึก - โปรโมตผ่านลาซาด้า - กลุ่มเป้าหมาย

การเลือกสินค้า

ฉันควรเลือกสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการโปรโมตอย่างไร?
  • โดยหลักการแล้ว ให้เลือกสินค้าที่มีผู้ค้นหาสูงสุด สินค้าที่กำลังมาแรง และสินค้ายอดนิยมเสมอ (เช่น สินค้าที่มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยมีการให้คะแนนและรีวิวสินค้าที่ยอดเยี่ยม)
  • เลือกสินค้าที่มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ (เช่น ราคาที่น่าดึงดูด การจัดส่งฟรี คูปองส่วนลด และอื่นๆ) จะช่วยเพิ่มโอกาสให้สินค้าที่คุณโปรโมตสามารถดึงดูดลูกค้าและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น
ฉันควรเลือกสินค้าโปรโมตกี่รายการสำหรับแต่ละแคมเปญ
  • คุณสามารถเลือกสินค้าได้สูงสุด 100 รายการสำหรับแต่ละแคมเปญ เราขอแนะนำให้ตั้งค่าแคมเปญตามหมวดหมู่ที่โฟกัส (เช่น สกินแคร์ เครื่องบำรุงผม เครื่องสำอาง ฯลฯ) รวมถึงสินค้าขายดีของร้านคุณ (เช่น สินค้ายอดนิยมที่มีคะแนนและรีวิวจากผู้ซื้อในระดับดีเยี่ยม) เพราะการเพิ่มจำนวนสินค้าที่โปรโมตมักหมายถึงการเพิ่มยอดเข้าชม และสร้างโอกาสให้ผู้ซื้อรับรู้สินค้าของคุณมากขึ้น
ฉันจะตรวจสอบประสิทธิภาพของสินค้าโปรโมตได้อย่างไร
  • คุณสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของสินค้าโปรโมตได้ในส่วนรายงานและข้อมูลเชิงลึก - ข้อมูลเชิงลึก - โปรโมตผ่านลาซาด้า - สินค้าโปรโมต

การเลือกคีย์เวิร์ด

ฉันจะหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมได้อย่างไร
  • เลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและมีแนวโน้มที่ดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างประสิทธิภาพจากการใช้งานคีย์เวิร์ดเหล่านั้น.
ฉันจะตรวจสอบประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดได้อย่างไร
  • คุณสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดได้ในส่วนรายงานและข้อมูลเชิงลึก - ข้อมูลเชิงลึก - โปรโมตผ่านลาซาด้า - คีย์เวิร์ด

แคมเปญโปรโมตสินค้าใหม่ (NPL)

ใครสามารถใช้แคมเปญโปรโมตสินค้าใหม่ได้บ้าง
  • เฉพาะร้านค้าที่ได้รับการอนุญาตเท่านั้น
สินค้าใดที่ถือว่าเป็น "สินค้าใหม่"
  • "สินค้าใหม่" หมายถึงสินค้าที่ถูกเพิ่มเข้ามาในระบบเป็นครั้งแรกภายในระยะเวลา 90 วันที่ผ่านมา โดยสินค้าที่ถูกปิดการใช้งานหรือถูกลบออกไปจะไม่นับว่าเป็น "สินค้าใหม่"
สินค้าที่ได้รับการโปรโมตจากแคมเปญโปรโมตสินค้าใหม่จะแสดงผลที่ไหน
ตำแหน่งการโปรโมตผ่านลาซาด้า:
  • แสดงบนหน้าผลลัพธ์การค้นหา
  • สินค้าที่แนะนำ: หน้าแรกบริเวณ 'สำหรับคุณ' , หน้ารายละเอียดสินค้า (PDP) บริเวณ 'คำแนะนำ'
ตำแหน่งพิเศษสำหรับแคมเปญโปรโมตสินค้าใหม่:
  • เหรียญ
  • หน้ารายการสั่งซื้อของฉัน: ที่รอการรีวิว
  • หน้ารายการสั่งซื้อของฉัน: ที่ต้องได้รับ
รูปแบบการเรียกเก็บเงินสำหรับแคมเปญโปรโมตสินค้าใหม่คืออะไร
  • สินค้าเปิดตัวใหม่ใช้รูปแบบค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) คุณจะถูกเรียกเก็บเงินเมื่อผู้ซื้อคลิกที่สินค้าโปรโมตของคุณ
ระยะเวลาของแคมเปญที่แนะนำคืออะไร
  • ควรตั้งระยะเวลาอย่างน้อย 30 วันเพื่อเพิ่มการแสดงผลของสินค้าโปรโมตให้สูงสุด สำหรับการตรวจสอบตลาดอย่างรวดเร็ว คุณสามารถตั้งค่าแคมเปญเป็นระยะเวลา 7 วันได้
ฉันสามารถแก้ไขงบประมาณหลังจากเริ่มใช้งานแคมเปญได้หรือไม่
  • ได้ คุณสามารถเพิ่มงบประมาณของคุณได้ แต่ขณะนี้ไม่สามารถลดงบประมาณสำหรับแคมเปญที่ดำเนินการอยู่ได้
ฉันจะเพิ่มหรือลบสินค้าโปรโมตหลังจากเริ่มใช้งานแคมเปญได้หรือไม่
  • ได้ คุณสามารถลบสินค้าได้โดยการหยุดแคมเปญชั่วคราว ลบสินค้า แล้วกดเปิดใช้งานต่อ ขณะนี้ยังไม่รองรับการเพิ่มสินค้าสำหรับแคมเปญที่ดำเนินการอยู่ได้

โปรโมตผ่านดิสเพลย์

ใครสามารถใช้โปรโมตผ่านดิสเพลย์ได้?
  • เฉพาะร้านค้าที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าใน LazMall
ทำไมฉันต้องใช้โปรโมตผ่านดิสเพลย์
  • การโปรโมตผ่านดิสเพลย์เป็นเครื่องมือบนแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มการมองเห็น ด้วยตำแหน่งแสดงผลสำคัญในช่วงเมกะแคมเปญ (เช่น วันเกิดลาซาด้า, 9.9, 11.11 และอื่นๆ) โดยแพ็กเกจเมกะดิสเพลย์มักครอบคลุมช่องทางการแสดงผลทั้งบนและนอกแพลตฟอร์ม
รูปแบบการเรียกเก็บเงินสำหรับโปรโมตผ่านดิสเพลย์คืออะไร?

รูปแบบการเรียกเก็บเงินมี 2 แบบ คือ

  • CPT (ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง) หรือ CPD (ค่าใช้จ่ายต่อวัน): โดยทั่วไปแพ็คเกจเมกะแคมเปญจะใช้รูปแบบการเรียกเก็บเงินนี้ ซึ่งเหมาะสำหรับการกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้ชมที่ปรับแต่งเอง (customized audience group targeting) และการทำการรีทาร์เก็ตติ้ง (re-targeting)
  • CPM (ค่าใช้จ่ายต่อการแสดงผลพันครั้ง): โดยปกติแล้วแพ็คเกจ BAU (วันปกติ) และ AP (แพ็คเกจ Annual Pass) จะใช้รูปแบบการเรียกเก็บเงินนี้
  • CPM Guaranteed Delivery (CPM GD): การจอง CPM GD ล่วงหน้าและจ่ายตามจำนวนการแสดงผลพันครั้งที่ได้รับตามจริงจากแคมเปญ CPM GD ของคุณ
  • ราคาประมูล CPM (CPM Bidding): เข้าร่วม CPM Bidding สำหรับการโปรโมตผ่านดิสเพลย์ โดยคุณสามารถกำหนดราคาประมูลและงบประมาณสำหรับแบนเนอร์ดิสเพลย์ได้ เพื่อให้โฆษณาของคุณแสดงผลและแข่งขันกับคู่แข่งบนแพลตฟอร์ม วิธีนี้ช่วยให้คุณควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าการใช้ CPM GD และยังสามารถกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้ชมได้แม่นยำยิ่งขึ้น ผ่าน DMP (แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล) ซึ่งขณะนี้พร้อมสำหรับการทดสอบในบางหมวดหมู่

ฉันจะเริ่มต้นใช้งานโปรโมตผ่านดิสเพลย์ได้อย่างไร

หากคุณต้องการใช้งานโปรโมตผ่านดิสเพลย์ มี 2 วิธี:

  • ซื้อแพ็คเกจ Annual Pass (AP) ล่วงหน้า เพื่อรับแบนเนอร์ดิสเพลย์ (CPD/CPM) และสื่อโฆษณาอื่นๆ เช่น OOH (เช่น ป้ายบิลบอร์ด, สื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น), CRM, LazFlash ฯลฯ ในราคาสุดพิเศษ
  • ซื้อแพ็คเกจเมกะแคมเปญล่วงหน้าเพื่อรับแบนเนอร์ดิสเพลย์ (CPD) พร้อมตำแหน่งแสดงผลหลักก่อนที่ตำแหน่งจะหมด โดยแพ็คเกจเมกะแคมเปญโดยปกติแล้วจะรวมถึง สื่อโฆษณานอกแพลตฟอร์ม เช่น CRM, อีเมลการตลาด เป็นต้น
  • **ติดต่อทีม Marketing Solution สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AP และแพ็คเกจเมกะแคมเปญ 

คำถาม: ฉันควรใช้แพ็คเกจโปรโมตผ่านดิสเพลย์แต่ละประเภทสำหรับวัตถุประสงค์ใดบ้าง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด?
  • เมื่อคุณได้รับ Annual Pass และแพ็คเกจเมกะแคมเปญแล้ว ให้ใช้ CPD เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากเมื่อแพลตฟอร์มมีผู้เข้าชมสูงสุด และใช้ CPM โปรโมตผ่านดิสเพลย์ในช่วงที่ไม่ใช่ช่วงเมกะหรือช่วงที่ไม่ใช่แคมเปญเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายเพิ่มและกลุ่มเป้าหมายซ้ำ (retarget audience) ให้ร้านค้าของคุณ
เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายผ่านการโปรโมตผ่านดิสเพลย์ได้หรือไม่
  • GD CPM ของการโปรโมตผ่านดิสเพลย์ช่วยให้คุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามอายุ เพศ ความสนใจ ยอดเข้าชมร้านค้า และอื่นๆ
  • CPM Bidding ของการโปรโมตผ่านดิสเพลย์ทำให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้โดยใช้แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูล (DMP) ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงทดลองใช้และมีให้บริการในบางหมวดหมู่เท่านั้น
  • CPD ของการโปรโมตผ่านดิสเพลย์ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากในช่วงที่มีผู้เข้าชมแพลตฟอร์มสูงสุด (เช่น แคมเปญขนาดใหญ่) ดังนั้นจึงไม่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับ CPD

โปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์ (SA)

ใครสามารถใช้การโปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์ได้บ้าง
  • ร้านค้าที่มีคะแนนไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนด (NPC) น้อยกว่า 12 คะแนน
  • NCP หมายถึง คะแนนที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบคะแนนที่ Lazada ใช้ในการประเมินการปฏิบัติตามนโยบายของ Lazada โดยคะแนน NCP จะเพิ่มขึ้นหากมีการยืนยันว่าร้านค้าได้กระทำบางอย่างที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของ Lazada
ทำไมถึงต้องใช้ โปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์
  • โปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์ช่วยเพิ่มยอดเข้าชมนอกแพลตฟอร์ม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้ซื้อได้มากขึ้น ผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุมของพาร์ทเนอร์และ KOL โดยคุณจะจ่ายเฉพาะเมื่อมียอดขายจริง พร้อมการันตี ROI สูงสุดถึง 25 เท่า
ฉันจะถูกเรียกเก็บเงินสำหรับการโปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์อย่างไร
  • รูปแบบการเรียกเก็บเงินเป็นแบบค่าใช้จ่ายต่อการขาย (CPS) โดย CPS จะอ้างอิงจากอัตราค่าคอมมิชชั่นที่กำหนดไว้ระหว่างการตั้งค่าแคมเปญโปรโมตพาร์ทเนอร์ และจะหักจากยอดขายของคุณ
  • สำหรับแบรนด์ที่ใช้ใน โปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์บน Marketing Solutions Portal (MSP) ลาซาด้าจะออกใบแจ้งหนี้ให้ทุกเดือน
พาร์ทเนอร์ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเห็นแคมเปญของฉัน
  • แคมเปญของคุณจะแสดงบนแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ของลาซาด้าภายใน 24 ชั่วโมง
ฉันสามารถลดระยะเวลาแคมเปญโปรโมตผ่านพาร์ทเนอร์ได้หรือไม่
  • แคมเปญต้องทำงานอย่างน้อย 7 วัน สิ่งนี้ทำให้พาร์ทเนอร์ สามารถเตรียมดำเนินการโปรโมตสินค้าและเข้าถึงผู้ซื้อที่มีศักยภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของอัตราค่าคอมมิชชั่นพื้นฐานของสินค้าคืออะไร
  • คุณไม่สามารถลดอัตราค่าคอมมิชชั่นพื้นฐานได้ เพื่อช่วยให้แคมเปญของคุณแข่งขันในตลาดและดึงดูดพาร์ทเนอร์ในเครือมาช่วยโปรโมตสินค้าของคุณได้มากขึ้น
วัตถุประสงค์ของอัตราค่าคอมมิชชั่นสินค้าเพิ่มเติมของสินค้าคืออะไร
  • อัตราค่าคอมมิชชั่นสินค้าเพิ่มเติมช่วยให้คุณได้ยอดเข้าชมมากขึ้น บนแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ของลาซาด้า สินค้าที่มีอัตราค่าคอมมิชชั่นสูงกว่ามีโอกาสสูงที่ได้รับเลือกและโปรโมตโดยพาร์ทเนอร์
มีการป้องกันสินค้าคุณภาพต่ำจากเว็บไซต์พาร์ทเนอร์หรือไม่?
  • มี ลาซาด้ามีระบบป้องกันการทุจริต เพื่อตรวจสอบยอดเข้าชมจากแหล่งที่ผิดปกติ แหล่งที่มาของยอดเข้าชมที่ผิดปกติจะถูกปฎิเสธโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบ
มีการตรวจจับการทุจริต เพื่อป้องกันการกระทำผิดปกติหรือไม่
  • ใช่ ลาซาด้ามีการตรวจจับการทุจริตเพื่อตรวจจับกิจกรรมที่เข้าข่ายทุจริต อาทิเช่น ยอดคลิกที่ไม่ปกติ
หากลูกค้าส่งคืนสินค้า ฉันจะได้รับเงินคืนหรือไม่
  • ช่ หากมีคำสั่งซื้อที่ถูกส่งคืน ลาซาด้าจะคืนค่าธรรมเนียมพาร์ทเนอร์ให้ที่รายได้ของร้านค้าคุณ

UTM Tracker & Traffic Reward Program (TRP)

ใครสามารถเข้าร่วม Traffic Reward Program ได้บ้าง
  • เฉพาะร้านค้าที่ได้รับอนุญาต (Whitelited) เท่านั้น
ฉันจะเข้าร่วมโปรแกรม Traffic Reward Program (TRP) ได้อย่างไร
  • TRP ในปัจจุบันเปิดให้พร้อมใช้งานเฉพาะร้านค้าที่ได้รับอนุญาต (whitelisted) เท่านั้น TRP จะมอบรางวัลให้กับร้านค้าในรูปแบบของบัตรกำนัลหรือเครดิตฟรีเมื่อสามารถดึงทราฟฟิกจากช่องทางนอกแพลตฟอร์มได้ตามจำนวนที่กำหนดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดย TRP จะนับเฉพาะทราฟฟิกจากช่องทางนอกแพลตฟอร์มที่ถูกติดตามผ่าน URL ที่สร้างขึ้นจาก UTM Tracker เท่านั้น
UTM Tracker คืออะไร
  • UTM (Urchin Tracking Module) Tracker ซึ่งคุณสามารถนำ URL ที่สร้างขึ้นไปใช้ในกับแคมเปญโปรโมตสินค้านอกแพลตฟอร์มได้

Meta Collaborative Ads (CPAS)

โฆษณา Meta มีกลุ่มเป้าหมายประเภทใดบ้าง
  • Custom Audience (กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง): ลูกค้าของ Lazada ที่เข้าชมหมวดหมู่สินค้าของคุณและหมวดหมู่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่คุณเลือก (เช่น แบรนด์ในกลุ่มสุขภาพและความงามอาจใช้กลุ่มเป้าหมายนี้เพื่อเข้าถึงผู้ใช้ Lazada ที่เคยเข้าชมหมวดหมู่ Babies & Toys, Women's Fashion และ Sports & Lifestyle)
  • Catalog Audience (กลุ่มเป้าหมายแคตตาล็อค): ลูกค้าของ Lazada ที่มีการโต้ตอบกับร้านค้าของคุณในช่วง 180 วันที่ผ่านมา (เช่น การเข้าชมสินค้า การเพิ่มสินค้าลงในรถเข็น หรือการสั่งซื้อ)
  • คุณสามารถใช้ Custom Audience สำหรับการค้นหาผู้ซื้อรายใหม่ และใช้ Catalog Audience สำหรับการทำ Retargeting กับลูกค้าเดิม

CPAS Migration FAQ: Onboarding

ทำไมผู้ขายต้องย้ายไปใช้ระบบ CPAS ใหม่?
  • เพื่อปรับปรุงประสบการณ์โฆษณาแบบร่วมมือ Meta (CPAS) บน Lazada เรากำลังเปลี่ยนไปใช้ Business Manager ใหม่ คุณจะได้รับประโยชน์ เช่น การซิงค์ที่ดีขึ้นระหว่างแคตตาล็อกของคุณกับโฆษณา CPAS การแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วขึ้น และการเริ่มต้นใช้งานบัญชีใหม่ที่รวดเร็วขึ้น
ผู้ขายต้องทำอะไรบ้างเพื่อย้ายไปใช้ระบบ CPAS ใหม่?
มีสามขั้นตอนหลักในการย้ายไปยังระบบ CPAS ใหม่:
  1. สร้าง Meta Ad Account ID ใหม่
  2. ทำ onboarding อีกครั้งผ่านกระบวนการ onboarding ดิจิทัล
  3. คัดลอกแคมเปญที่มีอยู่ไปยังบัญชีโฆษณาใหม่และเข้าสู่ช่วงการเรียนรู้ใหม่อีกครั้ง
สามารถแชร์แคตตาล็อกหนึ่งแคตตาล็อกไปยังหลาย Business Manager (BM) ID ได้หรือไม่?
  • ได้ 1 ส่วนของแคตตาล็อกสามารถแชร์ให้กับหลาย Business Manager ได้ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้สร้างส่วนของแคตตาล็อกใหม่สำหรับแต่ละ Business Manager
ฉันควรทำอย่างไรหากไม่สามารถ onboarding บัญชีโฆษณาใหม่ไปยังระบบ CPAS ใหม่ได้?
  • เหตุผลอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้ให้สิทธิ์การดูระหว่างการ onboarding บัญชีกลับไปยัง Lazada โปรดแก้ไขด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
    1. ไปที่หน้า Business Settings ใน Meta Business Account ของคุณ
    2. เลือกบัญชีโฆษณาของคุณ แล้วคลิก 'Assign partners'
    3. เลือก 'Business ID'
    4. ป้อน Business ID ของพาร์ทเนอร์: 2723068664658551,

    เปิดใช้งาน 'View performance', แล้วคลิก 'Next'.

CPAS Migration FAQ: Performance

ฉันสามารถคัดลอกประวัติประสิทธิภาพที่ผ่านมาไปยังบัญชีโฆษณาใหม่ได้หรือไม่?
  • ไม่สามารถทได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเริ่มกระบวนการเรียนรู้ใหม่และเร่งขั้นตอนได้ด้วยการรันแคมเปญ CPAS ของคุณอย่างต่อเนื่อง โดยเฟสการเรียนรู้จะเริ่มใหม่หากหยุด Ad Set เกิน 7 วัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฟสการเรียนรู้ โปรดดูบทความนี้ คุณสามารถดาวน์โหลดรายงานประสิทธิภาพที่ผ่านมาได้จากบัญชี Meta Ad เดิมของคุณ
หากรันแคมเปญสองแคมเปญพร้อมกันด้วยบัญชีโฆษณาสองบัญชีที่แตกต่างกัน จะมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพหรือไม่
  • หากแคมเปญเหมือนกัน (วัตถุประสงค์เดียวกัน ผลิตภัณฑ์เดียวกัน กลุ่มเป้าหมายเดียวกัน) แคมเปญทั้งสองจะเข้าแข่งขันกันเองและกลุ่มเป้าหมายจะทับซ้อนกัน นี่ไม่ใช่การตั้งค่าที่แนะนำ
มีแนวทางหรือการสนับสนุนใดสำหรับแบรนด์ในการเร่งประสิทธิภาพ CPAS เนื่องจากระบบต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ใหม่หรือไม่?
  • โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีงบประมาณเพียงพอสำหรับการแปลง 50 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อออกจากช่วงการเรียนรู้ โปรดดูบทความนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงการเรียนรู้

โปรโมตผ่านสื่อภายนอก

ใครสามารถใช้ โปรโมตผ่านสื่อภายนอกได้
  • เฉพาะร้านค้าที่อยู่ได้รับอนุญาตให้ให้งาน (whitelisted) เท่านั้น
รูปแบบการคิดค่าใช้จ่ายของ โปรโมตผ่านสื่อภายนอก เป็นอย่างไร
  • รูปแบบการคิดเงินเป็นแบบค่าใช้จ่ายต่อการแสดงผลพันครั้ง (CPM)
ฉันต้องอัปโหลดรูปภาพสินค้าสำหรับโปรโมตผ่านสื่อภายนอกโดยเฉพาะหรือไม่
  • ไม่จำเป็น โปรโมตผ่านสื่อภายนอกจะใช้รูปภาพครีเอทีฟที่คุณอัปโหลดไว้ในขั้นตอนการลงรายการสินค้า
สินค้าที่ได้รับการโปรโมตจะแสดงผลที่ไหน
  • สินค้าที่โปรโมตของคุณอาจแสดงผลบนฟีด Instagram, ฟีด Facebook, Instant Articles, Audience Network และ/หรือ Messenger Audience Network คือกลุ่มของผู้เผยแพร่ที่อนุญาตให้สินค้าที่โปรโมตของคุณแสดงบนแอปและเว็บไซต์อื่นๆ (เว็บไซต์ที่ไม่ใช่บนมือถือ)
  • ตำแหน่งการแสดงผลแบบอัตโนมัติช่วยให้ระบบเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยปรับแต่งตำแหน่งโฆษณาโดยอัตโนมัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ คุณจึงไม่สามารถเลือกหรือเอาตำแหน่งโฆษณาเฉพาะออกได้ *โปรดทราบว่า หากคุณรันแคมเปญด้วยโปรโมตผ่านสื่อภายนอกชื่อร้านค้าของคุณจะแสดงพร้อมโลโก้ลาซาด้า
วิธีการชำระเงินสำหรับ โปรโมตผ่านสื่อภายนอกมีอะไรบ้าง
  • คุณสามารถเติมเงินผ่านช่องทางการชำระเงินที่มีอยู่ เช่น บัตรเดบิต/เครดิต และ ยอดรายได้ปัจจุบันของร้านค้า โดยการคลิกที่เติมเงิน ในส่วน โปรโมตผ่านสื่อภายนอก บนหน้าภาพรวมของเครื่องมือโปรโมตสินค้า
โปรโมตผ่านสื่อภายนอกเป็นส่วนหนึ่งของ Traffic Reward Program (TRP) หรือไม่
  • ไม่ โปรโมตผ่านสื่อภายนอกยังไม่เป็นส่วนหนึ่งของ TRP ในขณะนี้

Sponsored Max

ROAS ที่ต้องการที่ระบบแนะนำถูกกำหนดมาจากอย่างไร
  • คำแนะนำเกี่ยวกับ ROAS ถูกปรับแต่งสำหรับสินค้าแต่ละชิ้นโดยใช้ข้อมูลประสิทธิภาพในอดีตและเกณฑ์มาตรฐานของตลาด เพื่อให้มั่นใจว่าค่าโฆษณาที่ใช้จะเหมาะสมที่สุดในการบรรลุยอดขายที่ต้องการ
จะเกิดอะไรขึ้นหากผู้ขายตั้งROAS ที่ต้องการไว้สูง
  • การตั้งROAS ที่ต้องการไว้สูงอาจทำให้ราคาประมูลต่ำลง ซึ่งจำกัดยอดเข้าชมและศักยภาพในการขาย เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ผู้ขายใช้ ROAS ที่ระบบแนะนำ ซึ่งคำนวณจากประสิทธิภาพในอดีตของสินค้าและข้อมูลร้านค้า เพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสินค้าของคุณ
ฉันสามารถโปรโมตสินค้าปัจจุบันที่อยู่ใน Sponsored Discovery ด้วย Sponsored Max ได้หรือไม่
  • น่าเสียดายที่สินค้าที่คล้ายกันไม่สามารถโปรโมตใน Sponsored Max และ Sponsored Discovery พร้อมกันได้ ผู้ขายอาจต้องหยุดการโปรโมตสินค้าใน Sponsored Discovery ก่อนที่จะเริ่มใช้งานใน Sponsored Max
ทำไมผลลัพธ์ ROAS ไม่ตรงกับ ROAS ที่ได้ตั้งค่าไว้
  • ROAS ที่ต้องการของคุณอาจผันผวนในช่วงแรกเนื่องจากอยู่ในช่วงการเรียนรู้ของสินค้า ความผันผวนของ ROAS จะมีนัยสำคัญมากขึ้นในช่วงนี้ โปรดรอให้ช่วงการเรียนรู้เสร็จสมบูรณ์ก่อนการปรับให้เหมาะสม
สินค้าที่โปรโมตของฉันจะแสดงผลที่ไหน
  • ปัจจุบัน Sponsored Max จะโปรโมตสินค้าในหน้าค้นหา และตำแหน่งอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มยอดเข้าชมสินค้าของคุณ
คำถาม: ช่วงเวลาการวัดผล (Attribution Window) ของ Sponsored Max คือกี่วัน
  • ช่วงเวลาการวัดผลสำหรับ Sponsored Max คือ 30 วันเช่นเดียวกับ Sponsored Discovery
Sponsored Max หักค่าใช้จ่ายจากกระเป๋าเงิน (Wallet) ใด
  • Sponsored Max หักค่าใช้จ่ายจากกระเป๋าเงินเดียวกันกับ Sponsored Discovery ผู้ขายสามารถเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินเพื่อให้สามารถใช้งานการโปรโมตสินค้าต่อไปได้
ฉันควรใช้ Sponsored Max เพื่อโปรโมตอย่างไรในขณะที่ฉันเคยใช้ Sponsored Discovery มาแล้ว
  • Sponsored Max ช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าของคุณ ในขณะที่ยังสามารถควบคุม ROAS ที่ต้องการได้ หากใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กัน จะสามารถรักษายอดเข้าชมร้านค้าของคุณตามวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่แตกต่างกันได้ แนะนำให้โปรโมตสินค้าที่แนะนำใน Sponsored Max และใช้แคมเปญ Sponsored Discovery ต่อไปตามปกติ
ฉันควรตรวจสอบประสิทธิภาพของ Sponsored Max อย่างไร
  • คุณสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพโดยรวมของสินค้า Sponsored Max ได้โดยไปที่แท็บ Sponsored Max ภายใต้ส่วนประสิทธิภาพ
ฉันสามารถปรับ ROAS และงบประมาณรายวันได้กี่ครั้งต่อวัน
  • คุณสามารถปรับ ROAS และงบประมาณรายวันสำหรับแคมเปญ Sponsored Max ได้สูงสุด 2 ครั้งต่อวัน เผื่อให้ผลการดำเนินการมีความเสถียร เราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณหลีกเลี่ยงการแก้ไขที่ไม่จำเป็น